แนะนำ จิ่วจ้ายโกว: ดินแดนสวรรค์บนพื้นพิภพ
จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou, 九寨沟) คืออุทยานแห่งชาติในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” จาก UNESCO และถูกขนานนามว่าเป็น “ดินแดนแห่งเทพนิยาย” หรือ “ดินแดนสวรรค์บนพื้นพิภพ” ด้วยความงดงามของธรรมชาติที่หาได้ยากยิ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยทะเลสาบน้ำใสสีฟ้าครามและเขียวมรกต น้ำตกที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ สลับกับภูเขาหิมะในฤดูหนาว และป่าเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้จิ่วจ้ายโกวเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ นักถ่ายภาพ หรือแม้แต่ครอบครัวที่ต้องการพาเด็กๆ ไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของโลก บทความนี้จะแนะนำวิธีการเที่ยวจิ่วจ้ายโกวด้วยตัวเองอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด
ทำไมต้องไปเยือนจิ่วจ้ายโกว?
เสน่ห์ของจิ่วจ้ายโกวอยู่ที่ความหลากหลายทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ คุณจะได้พบกับ:
ทะเลสาบสีสันมหัศจรรย์: น้ำในทะเลสาบมีความใสมากจนมองเห็นพื้นใต้น้ำ และมีสีสันแตกต่างกันไปตามความลึกของน้ำ แร่ธาตุ และแสงแดด เช่น ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake) ที่มีเฉดสีฟ้า เขียว เหลือง ม่วง ผสมผสานกันอย่างลงตัวน้ำตกตระการตา: น้ำตกนานาชนิดที่ไหลมาจากที่สูง สร้างเสียงดังก้องกังวานและละอองน้ำที่สดชื่น เช่น น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall) ที่กว้างใหญ่ไพศาล และน้ำตกนั่วรื่อหล่าง (Nuorilang Waterfall) ที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอุทยานภูเขาและป่าไม้: ทิวทัศน์ภูเขาที่สลับซับซ้อนปกคลุมด้วยป่าไม้หนาทึบ ซึ่งจะเปลี่ยนสีสันงดงามยิ่งขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงวัฒนธรรมทิเบต: บริเวณโดยรอบจิ่วจ้ายโกวเป็นที่อยู่อาศัยของชาวทิเบต คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์
ความงดงามเหล่านี้ทำให้จิ่วจ้ายโกวเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท
การวางแผนเที่ยวจิ่วจ้ายโกวด้วยตัวเอง
การเดินทางไปจิ่วจ้ายโกว
การเดินทางที่สะดวกที่สุดไปยังจิ่วจ้ายโกวคือการเดินทางจากเมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองหลักในมณฑลเสฉวน มี 2 วิธีหลักๆ:
เครื่องบิน: บินจากสนามบินเฉิงตู (Chengdu Shuangliu International Airport – CTU) ไปยังสนามบินจิ่วจ้ายหวงหลง (Jiuzhai Huanglong Airport – JZH) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากสนามบิน JZH ยังคงต้องเดินทางต่อด้วยรถยนต์หรือรถบัสสาธารณะอีกประมาณ 80-90 กิโลเมตร (ประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง) เพื่อเข้าสู่เขตอุทยานจิ่วจ้ายโกว วิธีนี้รวดเร็วที่สุดแต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถบัส: นั่งรถบัสทางไกลจากสถานีขนส่งเฉิงตู (เช่น Chadianzi Bus Station) ไปยังจิ่วจ้ายโกว ใช้เวลาค่อนข้างนาน ประมาณ 8-10 ชั่วโมง หรืออาจนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและสภาพถนน แม้วิธีนี้จะใช้เวลานานกว่าและอาจไม่สะดวกเท่าเครื่องบิน แต่ก็เป็นวิธีที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า และระหว่างทางอาจได้ชมวิวธรรมชาติสองข้างทาง
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง
ฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการไปเยือน
จิ่วจ้ายโกวมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู แต่ช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ:
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม): เป็นช่วงที่สวยที่สุด สีสันของใบไม้เปลี่ยนสีทั้งป่า ตัดกับสีฟ้าของทะเลสาบ เป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาด ช่วงนี้อากาศเย็นสบาย แต่เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุด ค่าที่พักและค่าตั๋วเครื่องบินจะสูงฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม): อากาศอบอุ่นถึงร้อน น้ำตกมีปริมาณน้ำมาก ป่าไม้เขียวขจี เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง อาจมีฝนตกได้บ้างฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม): อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ดอกไม้เริ่มผลิบาน น้ำในทะเลสาบเริ่มกลับมามีสีสันหลังจากฤดูหนาว นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นเท่าฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์): อากาศหนาวเย็นมาก บางส่วนของอุทยานอาจถูกปกคลุมด้วยหิมะ ทะเลสาบบางแห่งอาจกลายเป็นน้ำแข็ง เป็นช่วงที่เงียบสงบและมีเสน่ห์แบบเหงาๆ เหมาะสำหรับคนชอบความหนาวและวิวหิมะสวยๆ
หากต้องการชมความงามสุดพีค ให้เลือกเดินทางช่วงกลางเดือนตุลาคม แต่อย่าลืมจองทุกอย่างล่วงหน้า!
การเดินทางภายในอุทยานจิ่วจ้ายโกว
อุทยานจิ่วจ้ายโกวมีลักษณะเป็นรูปตัว Y เส้นทางหลักมี 3 แฉก การเดินทางภายในอุทยานสะดวกสบายด้วยระบบรถบัสของอุทยาน ซึ่งรวมอยู่ในค่าเข้าชมแล้ว รถบัสจะจอดตามจุดท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ คุณสามารถขึ้นลงรถบัสได้ตลอดตามต้องการ เส้นทางเดินเท้าก็มีให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการเดินสำรวจธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ที่พักในจิ่วจ้ายโกว
มีตัวเลือกที่พักหลายรูปแบบ:
ภายในอุทยาน: ในอดีตเคยมีที่พักของชาวบ้านทิเบตภายในอุทยาน แต่ปัจจุบันทางการจีนได้จัดระเบียบและจำกัดการเข้าพักภายในอุทยานอย่างเข้มงวด เพื่อการอนุรักษ์ โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวจะต้องพักนอกอุทยานนอกอุทยาน (เมืองจางจ๋า): เมืองจางจ๋า (Zhangzha Town) ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าอุทยาน มีโรงแรม รีสอร์ท และเกสต์เฮาส์ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ระดับประหยัดไปจนถึงหรูหรา การพักที่นี่สะดวกสบายที่สุด เพราะสามารถเดินทางไปอุทยานได้ง่าย
ควรจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว
จุดท่องเที่ยวห้ามพลาดในจิ่วจ้ายโกว
อุทยานจิ่วจ้ายโกวแบ่งออกเป็น 3 หุบเขาหลัก:
หุบเขาซูเจิ้ง (Shuzheng Valley)
เป็นหุบเขาที่อยู่ใกล้ทางเข้าอุทยาน มีจุดเด่นคือ ทะเลสาบหลายแห่งเรียงต่อกัน เช่น ทะเลสาบซูเจิ้ง (Shuzheng Lakes), ทะเลสาบแรด (Rhino Lake) และน้ำตกซูเจิ้ง (Shuzheng Waterfall) นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านทิเบตโบราณให้เยี่ยมชม
หุบเขาซื่อเจ๋อหวา (Zechawa Valley)
เป็นหุบเขาฝั่งซ้ายของรูปตัว Y มีจุดเด่นคือ ทะเลสาบยาว (Long Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่และสูงที่สุดในอุทยาน น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไม่เคยแห้ง และทะเลสาบห้าสี (Five Color Pond) ซึ่งเป็นทะเลสาบเล็กๆ แต่มีสีสันสวยงามน่าอัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่ง
หุบเขาเย๋อเจ๋อ (Rize Valley)
เป็นหุบเขาฝั่งขวาของรูปตัว Y และเป็นที่ตั้งของจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดหลายแห่ง เช่น น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall), ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake), ทะเลสาบแพนด้า (Panda Lake), และทะเลสาบกระจก (Mirror Lake)
การเที่ยวชมภายในอุทยาน มักจะนั่งรถบัสขึ้นไปสุดแต่ละแฉกแล้วค่อยๆ นั่งรถบัสหรือเดินลงมาตามจุดต่างๆ
ขอบคุณภาพจาก https://innews.news ทิปส์สำหรับการเที่ยวจิ่วจ้ายโกวด้วยตัวเอง
ซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า: โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว การซื้อตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์จะช่วยประหยัดเวลาในการต่อคิวที่ทางเข้าเตรียมเสื้อผ้าหลายชั้น: อากาศในจิ่วจ้ายโกวอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ควรเตรียมเสื้อผ้าที่สามารถใส่และถอดเป็นชั้นๆ ได้รองเท้าที่ใส่สบาย: คุณจะต้องเดินค่อนข้างมาก ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะกับการเดินป่าหรือเดินในอุทยานเตรียมอุปกรณ์กันฝน: ฝนอาจตกได้ทุกฤดู ควรมีร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวป้องกันความสูง: จิ่วจ้ายโกวและบริเวณโดยรอบตั้งอยู่ในพื้นที่สูง โดยเฉพาะสนามบิน JZH และทะเลสาบยาว อาจมีอาการแพ้ความสูงได้ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักๆ และอาจพกยาหรืออุปกรณ์ช่วยสำหรับอาการแพ้ความสูงเตรียมอาหารและน้ำดื่ม: ภายในอุทยานมีร้านอาหารและร้านค้า แต่มีราคาค่อนข้างสูง การเตรียมขนมขบเคี้ยวและน้ำดื่มส่วนตัวจะช่วยประหยัดรักษาสิ่งแวดล้อม: ไม่ทิ้งขยะ ไม่ให้อาหารสัตว์ และปฏิบัติตามกฎของอุทยานอย่างเคร่งครัดภาษา: ภาษาจีนกลางเป็นภาษาหลัก การมีแอปแปลภาษาติดตัว หรือเรียนรู้วลีภาษาจีนง่ายๆ จะเป็นประโยชน์การเชื่อมต่อ: สัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตภายในอุทยานอาจไม่เสถียร ควรเตรียมตัวให้พร้อม
การเดินทางเชื่อมโยงกับเฉิงตู
นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมจัดโปรแกรมเที่ยวจิ่วจ้ายโกวควบคู่ไปกับการเที่ยวเมืองเฉิงตู เพราะเฉิงตูเป็นศูนย์กลางการเดินทางไปยังจิ่วจ้ายโกวอยู่แล้ว การเที่ยวเฉิงตูจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์อีกรูปแบบของมณฑลเสฉวน เช่น การเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์หมีแพนด้าเฉิงตู ลิ้มลองอาหารเสฉวนรสจัดจ้าน เยี่ยมชมวัดวาอาราม และเดินเล่นในย่านเมืองเก่า การรวมสองจุดหมายปลายทางนี้เข้าด้วยกันจะทำให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
ตัวเลือกทัวร์จิ่วจ้ายโกว
แม้ว่าการเที่ยวจิ่วจ้ายโกวด้วยตัวเองจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวางแผนและมีความยืดหยุ่น แต่สำหรับบางคน การเลือกซื้อทัวร์สำเร็จรูปก็เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายและช่วยประหยัดเวลาในการวางแผนได้มาก บริษัททัวร์มักจะดูแลเรื่องการเดินทาง ที่พัก และตั๋วเข้าชมต่างๆ ทำให้คุณสามารถพักผ่อนและเพลิดเพลินกับความงามของจิ่วจ้ายโกวได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางและการจัดการต่างๆ
สรุป
จิ่วจ้ายโกวเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้รักธรรมชาติ นักถ่ายภาพ หรือแค่มองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ การวางแผนเที่ยวจิ่วจ้ายโกวด้วยตัวเองอาจต้องอาศัยข้อมูลและการเตรียมตัวบ้าง แต่ความงดงามที่คุณจะได้สัมผัสจะคุ้มค่ากับความพยายามอย่างแน่นอน หวังว่าคู่มือนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเดินทางไปยังดินแดนสวรรค์แห่งนี้ของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
Q: ค่าเข้าอุทยานจิ่วจ้ายโกวราคาเท่าไหร่?
Q: ใช้เวลาเที่ยวกี่วันจึงจะทั่วถึง?
Q: ควรแลกเงินหยวนไปเท่าไหร่?
Q: สามารถเช่ารถพร้อมคนขับเที่ยวในพื้นที่ได้ไหม?
Q: มีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษไหม?
ดูโปรแกรม ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ได้ที่ Thaifly.com
