ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com/
สัมผัสความมหัศจรรย์ ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ดินแดนแห่งสีสัน
จิ่วจ้ายโกว: อัญมณีแห่งธรรมชาติที่ห้ามพลาด
จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) หรือในภาษาจีน 九寨沟 คืออุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “สวรรค์บนดิน” ด้วยความงดงามตามธรรมชาติที่ยากจะหาที่เปรียบ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบสีสันสดใสหลากเฉดสี น้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาอย่างอลังการ หรือทิวเขาสูงตระหง่านที่ปกคลุมด้วยหิมะ จิ่วจ้ายโกวจึงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติ การเลือกโปรแกรม ทัวร์จิ่วจ้ายโกว เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้
ความโดดเด่นของจิ่วจ้ายโกวอยู่ที่ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยหุบเขา 3 หุบ คือ หุบเขาเจ๋อจาว (Zechawa Gully) หุบเขาซู่เจิ้ง (Shuzheng Gully) และหุบเขาเจียจวิน หรือ แรร์เซ็กู (Rize Gully) ซึ่งเชื่อมต่อกันเป็นรูปตัว Y ภายในหุบเขาทั้งสามนี้เต็มไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่กว่าร้อยแห่ง แต่ละแห่งมีความพิเศษที่แตกต่างกันไปตามแร่ธาตุและพืชพรรณในบริเวณนั้น ทำให้สีของน้ำในทะเลสาบมีหลากหลายเฉด ตั้งแต่สีฟ้าคราม สีเขียวมรกต ไปจนถึงสีเหลืองทอง สลับกับสีแดงและสีส้มของใบไม้ที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง สร้างทัศนียภาพที่งดงามตระการตา
ความงดงามของธรรมชาติในจิ่วจ้ายโกว
ไฮไลท์ของจิ่วจ้ายโกวอยู่ที่ทะเลสาบและน้ำตกอันเลื่องชื่อ เช่น:
ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake): เป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในจิ่วจ้ายโกว น้ำในทะเลสาบมีสีสันที่แตกต่างกันไปตามความลึกและปริมาณของแร่ธาตุ รวมถึงสีของต้นไม้รอบๆ ที่สะท้อนลงมา ทำให้เห็นเฉดสีที่หลากหลายราวกับอัญมณี
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com/
ทะเลสาบแพนด้า (Panda Lake): ได้ชื่อมาจากหมีแพนด้าที่เคยลงมากินน้ำในบริเวณนี้ เป็นทะเลสาบที่มีสีฟ้าใสและมีน้ำตกเล็กๆ ไหลลงมาเพิ่มความสดชื่น
ทะเลสาบกระจก (Mirror Lake): ในวันที่อากาศสงบและไม่มีลม น้ำในทะเลสาบจะนิ่งใสราวกับกระจก สะท้อนภาพภูเขาและต้นไม้รอบๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
น้ำตกไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall): น้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาบนโขดหินกว้าง ทำให้ดูเหมือนเม็ดไข่มุกนับล้านกำลังโปรยปรายลงมา เป็นฉากหลังอันงดงามสำหรับการถ่ายภาพ
น้ำตกนั่วรื่อหลาง (Nuo Ri Lang Waterfall): เป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในจิ่วจ้ายโกว มีความสูงและกว้างใหญ่ตระการตา
นอกจากทะเลสาบและน้ำตกแล้ว จิ่วจ้ายโกวยังมีธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ป่าดึกดำบรรพ์ ทุ่งหญ้าอัลไพน์ และวิวทิวเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว
สัมผัสวัฒนธรรมทิเบตอันเป็นเอกลักษณ์
จิ่วจ้ายโกวตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองของชนชาติทิเบต ทำให้การเดินทางมาที่นี่นอกจากจะได้ชื่นชมธรรมชาติแล้ว ยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของชาวทิเบตดั้งเดิมอีกด้วย ในระหว่างการเดินทาง อาจได้เห็นบ้านเรือนแบบทิเบต วัดวาอารามที่งดงาม หรือแม้แต่ได้ลองชิมอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ การผสมผสานระหว่างความงามของธรรมชาติกับวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ทำให้การเที่ยวจิ่วจ้ายโกวมีความหมายและน่าจดจำยิ่งขึ้น
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com/
เส้นทางยอดนิยม: เที่ยวจิ่วจ้ายโกวจากเฉิงตู
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปจิ่วจ้ายโกวจากเมืองเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญ เส้นทางยอดนิยมมีหลายแบบ:
1. เดินทางโดยเครื่องบิน: เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด มีเที่ยวบินตรงจากเฉิงตูไปยังสนามบินจิ่วจ้ายโกว (JZH) ซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานประมาณ 88 กิโลเมตร จากนั้นต้องต่อรถยนต์หรือรถบัสไปยังอุทยาน
2. เดินทางโดยรถยนต์/รถบัส: เป็นวิธีที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มหรือมากับทัวร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและสภาพถนน ระหว่างทางอาจได้แวะชมทิวทัศน์หรือเมืองเล็กๆ ที่น่าสนใจ
การเดินทางจากเฉิงตูมักถูกจัดให้อยู่ในโปรแกรม ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ควบคู่ไปกับการเที่ยวในเมืองเฉิงตูเอง เช่น การเยี่ยมชมศูนย์เพาะพันธุ์หมีแพนด้า หรือการลิ้มลองอาหารเสฉวนรสเด็ด การจัดทัวร์แบบนี้ช่วยให้การเดินทางมีความหลากหลายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น
จิ่วจ้ายโกว: เหมาะกับนักเดินทางแบบไหน?
จิ่วจ้ายโกวเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับนักเดินทางหลากหลายกลุ่ม:
สำหรับคนรักธรรมชาติ: ด้วยความงดงามของทะเลสาบสีสัน น้ำตก และภูเขา ทำให้ที่นี่คืองานเลี้ยงสำหรับสายตา ผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าหรือเดินชมวิวในบรรยากาศบริสุทธิ์จะหลงรักที่นี่
สำหรับช่างภาพ: จิ่วจ้ายโกวมีมุมถ่ายภาพที่สวยงามมากมายในทุกฤดูกาล แสงและสีที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาของวันและสภาพอากาศ มอบโอกาสในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่น่าทึ่งไม่รู้จบ
สำหรับครอบครัว: การเดินทางในอุทยานค่อนข้างสะดวกสบาย มีรถบัสภายในอุทยานให้บริการ ทำให้สามารถเดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้ง่าย เด็กๆ จะตื่นตาตื่นใจกับสีสันของธรรมชาติ ส่วนผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนและชมวิว
สำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรม: การได้สัมผัสกับวัฒนธรรมทิเบตที่ผสมผสานกับธรรมชาติอันงดงาม เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก
วางแผนเที่ยวจิ่วจ้ายโกว: เคล็ดลับและคำแนะนำ
ฤดูที่เหมาะสมที่สุด: จิ่วจ้ายโกวมีความสวยงามในทุกฤดูกาล แต่ช่วงที่นิยมที่สุดคือฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม) เมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง ส้ม สลับกับสีฟ้าเขียวของทะเลสาบ สร้างภาพที่งดงามราวภาพวาด ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) น้ำตกจะไหลแรงและป่าไม้เขียวขจี ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุทยานจะปกคลุมด้วยหิมะ ทะเลสาบบางแห่งอาจแข็งตัว ให้ความรู้สึกสงบและเงียบเหงา ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศเย็นสบาย ดอกไม้เริ่มบาน
การเตรียมตัวและสิ่งที่ควรนำไป:
สิ่งที่ควรนำไป | หมายเหตุ |
---|
เสื้อผ้าตามฤดูกาล | เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละช่วง ฤดูหนาวต้องเตรียมเสื้อกันหนาวจัดเต็ม |
รองเท้าเดินสบาย | ต้องเดินเยอะ เลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายและเหมาะกับการเดิน |
ครีมกันแดดและหมวก | แดดแรง แม้ในวันที่อากาศเย็น |
ยาประจำตัว | เผื่อในกรณีฉุกเฉิน |
กล้องถ่ายรูปและแบตเตอรี่สำรอง | คุณจะต้องถ่ายรูปเยอะมาก! |
ขนมขบเคี้ยวและน้ำดื่ม | ภายในอุทยานมีร้านค้าและร้านอาหาร แต่การเตรียมไปเองอาจสะดวกกว่า |
การเดินทางภายในอุทยาน: อุทยานมีบริการรถบัสที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วิ่งไปยังจุดท่องเที่ยวหลักต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลงได้ตามป้ายที่กำหนด เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเที่ยวชม
ความสูงจากระดับน้ำทะเล: จิ่วจ้ายโกวตั้งอยู่ในพื้นที่สูง โดยมีความสูงตั้งแต่ 2,000 ถึงกว่า 4,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวบางคนอาจมีอาการแพ้ความสูง ควรเดินช้าๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการออกแรงมากเกินไป
โปรแกรมทัวร์จิ่วจ้ายโกวที่น่าสนใจ
ปัจจุบันมีโปรแกรม ทัวร์จิ่วจ้ายโกว จากประเทศไทยให้เลือกมากมาย โดยส่วนใหญ่มักจะรวมการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเฉิงตู และเดินทางต่อยังจิ่วจ้ายโกว โปรแกรมทัวร์มักจะครอบคลุมค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร และค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ รวมถึงมีไกด์คอยอำนวยความสะดวก การเลือกทัวร์เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการเรื่องการเดินทางทั้งหมดให้ นอกจากจิ่วจ้ายโกวแล้ว โปรแกรมทัวร์ยอดนิยมมักจะพ่วงสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น อุทยานหวงหลง (Huanglong) ที่มีสระน้ำแคลเซียมสีทองงดงาม หรือการเที่ยวชมไฮไลท์ในเมืองเฉิงตู
คำถามที่พบบ่อย
Q: ควรไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกวช่วงไหนดีที่สุด?
A: ช่วงที่นิยมที่สุดคือฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม) เพราะใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามมาก รองลงมาคือฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) น้ำตกสวยและป่าไม้เขียวขจี
Q: สามารถเที่ยวจิ่วจ้ายโกวด้วยตัวเองได้ไหม?
A: สามารถเที่ยวเองได้ แต่การเดินทางจากเฉิงตูค่อนข้างไกล การเดินทางภายในอุทยานสะดวกด้วยรถบัส การเลือกซื้อทัวร์จะสะดวกกว่าในแง่การจัดการเดินทางและที่พัก
Q: ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างสำหรับความสูงจากระดับน้ำทะเล?
A: ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง หลีกเลี่ยงการออกแรงหนัก เดินช้าๆ และดื่มน้ำเยอะๆ หากมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรือหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทาง
Q: มีร้านอาหารหรือที่พักภายในอุทยานไหม?
A: ภายในอุทยานมีร้านอาหารและจุดบริการนักท่องเที่ยวกระจายอยู่ตามจุดหลัก แต่ที่พักส่วนใหญ่จะอยู่นอกอุทยาน ในเมืองจิ่วจ้ายโกวหรือบริเวณใกล้เคียง
Q: จิ่วจ้ายโกวสวยเหมือนในรูปจริงไหม?
A: สวยเหมือนในรูปหรืออาจจะสวยกว่าในความเป็นจริง! ความงดงามของสีสันและธรรมชาติที่นี่เป็นของจริงที่น่าทึ่ง
ค้นพบความมหัศจรรย์ของจิ่วจ้ายโกวด้วยตัวคุณเอง วางแผนการเดินทางของคุณวันนี้ และเตรียมพบกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม
ดูโปรแกรม ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ได้ที่ Thaifly.com