10 กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโด
1. สัมผัสความงดงามของเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
เทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงระดับโลก จัดขึ้นทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ ตื่นตาตื่นใจกับประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งขนาดมหึมาที่สร้างสรรค์ได้อย่างน่าทึ่งทั่วเมือง โดยเฉพาะที่สวนโอโดริ (Odori Park) และสึโดม (Tsudome Site) สถานที่และแผนที่ สวนโอโดริ (Odori Park), ย่านซูซูกิโนะ (Susukino), และ Sapporo Community Dome (Tsudome) ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง จากสถานี Sapporo สามารถเดินไปยังสวนโอโดริได้ หรือใช้รถไฟใต้ดินสาย Namboku, Toho, หรือ Tozai ลงสถานี Odori ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ลองชิมอาหารและเครื่องดื่มอุ่นๆ จากซุ้มต่างๆเยี่ยมชมประติมากรรมน้ำแข็งยามค่ำคืนที่ย่านซูซูกิโนะ ซึ่งมีการประดับไฟสวยงามอย่าลืมสวมเสื้อผ้ากันหนาวที่อบอุ่นมากๆ ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ เข้าชมฟรีในพื้นที่หลัก อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมพิเศษหรืออาหาร
2. เล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่นิเซโกะ (Niseko)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
นิเซโกะเป็นหนึ่งในรีสอร์ทสกีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยผงหิมะคุณภาพเยี่ยม (Powder Snow) และภูมิประเทศที่หลากหลาย เหมาะสำหรับนักกีฬาทุกระดับ มีหลายสกีรีสอร์ทให้เลือก เช่น Niseko United ที่เชื่อมต่อถึงกัน สถานที่และแผนที่ Niseko United (ครอบคลุม Grand Hirafu, Niseko Village, Annupuri, Hanazono) ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟ JR Hakodate Line จาก Sapporo ไปยังสถานี Kutchan หรือ Niseko จากนั้นต่อรถบัส หรือใช้บริการรถบัสตรงจากสนามบิน New Chitose ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ลองสัมผัสออนเซ็นธรรมชาติหลังการเล่นสกีชิมอาหารอร่อยในหมู่บ้านนิเซโกะที่มีร้านอาหารนานาชาติมากมายจองตั๋วสกีและที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วง High Season ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าตั๋วสกีแบบ 1 วันประมาณ 8,000 – 10,000 เยน ไม่รวมค่าเช่าอุปกรณ์และอื่นๆ
3. ลิ้มรสราเมงที่ตรอกราเมงซัปโปโร (Sapporo Ramen Alley)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
ตรอกราเมง หรือ Ganso Sapporo Ramen Yokocho เป็นแหล่งรวมร้านราเมงเก่าแก่กว่าสิบร้านในย่านซูซูกิโนะ ที่นี่คุณจะได้ชิมราเมงซุปมิโซะรสเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ของซัปโปโร สถานที่และแผนที่ Ganso Sapporo Ramen Yokocho, Susukino, Sapporo ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku, Toho, หรือ Tozai ลงสถานี Susukino ตรอกราเมงจะอยู่ใกล้เคียง ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
แต่ละร้านมีสูตรเฉพาะตัว ลองเลือกร้านที่ถูกใจจากรีวิวหรือบรรยากาศราเมงซัปโปโรนิยมใส่ข้าวโพดและเนย ลองสั่งมาลองชิมดูตรอกราเมงเหมาะสำหรับการมาทานมื้อค่ำหรือมื้อดึก ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ราเมงหนึ่งชามราคาประมาณ 800 – 1,500 เยน
4. แช่ออนเซ็นผ่อนคลายที่โจซังเค (Jozankei Onsen)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
โจซังเคเป็นเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากซัปโปโร ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล มีเรียวกังและโรงแรมหลายแห่งที่มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติให้เลือกแช่ สถานที่และแผนที่ Jozankei Onsen Town, Sapporo ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง ใช้บริการรถบัส Jōtetsu Bus หมายเลข Kappa Liner จากสถานี Sapporo ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ลองพักค้างคืนในเรียวกังเพื่อสัมผัสประสบการณ์ออนเซ็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเดินเล่นชมวิวธรรมชาติริมแม่น้ำ Toyohiraชิมมันเผาและของหวานที่ทำจากน้ำพุร้อน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าแช่ออนเซ็นแบบ Day Trip เริ่มต้นประมาณ 1,000 – 2,000 เยน การพักค้างคืนมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
5. ชมทุ่งดอกไม้หลากสีที่ฟุราโนะ (Furano) และบิเอะ (Biei)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
ในช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม-สิงหาคม) ฟุราโนะและบิเอะจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ โดยเฉพาะทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) และทุ่งดอกไม้หลากสีที่ชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai no Oka) เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามมาก สถานที่และแผนที่ Farm Tomita (Nakafurano), Shikisai no Oka (Biei) ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟ JR Furano Line จาก Asahikawa หรือ Takikawa ไปยังสถานี Naka-Furano (สำหรับ Farm Tomita) หรือ Biei จากนั้นอาจเช่ารถจักรยานยนต์ หรือใช้บริการรถบัส/แท็กซี่ ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ลองชิมไอศกรีมลาเวนเดอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของฟุราโนะเช่าจักรยานปั่นชมวิวในพื้นที่ชนบทของบิเอะที่เรียกว่า Panorama Road หรือ Patchwork Roadเยี่ยมชม Aoi Pond (สระน้ำสีฟ้า) ที่มีชื่อเสียงในบิเอะ ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ เข้าชมฟาร์มส่วนใหญ่ฟรี ค่าเดินทางและค่าเช่าพาหนะเป็นค่าใช้จ่ายหลัก
6. เดินเล่นบรรยากาศโรแมนติกที่คลองโอตารุ (Otaru Canal)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
คลองโอตารุเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ อดีตเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีโกดังเก่าแก่ริมคลองที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่เปิดไฟตามริมคลอง สถานที่และแผนที่ Otaru Canal, Otaru ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟ JR Hakodate Line จาก Sapporo ไปยังสถานี Otaru ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
เยี่ยมชมร้านเครื่องแก้วและกล่องดนตรีที่มีชื่อเสียงในย่าน Sakaimachiชิมอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะซูชิลองทานชีสเค้กชื่อดังของ LeTAO ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ เดินเล่นริมคลองฟรี ค่าใช้จ่ายหลักคือค่าเดินทาง อาหาร และของที่ระลึก
7. ชมสัตว์เมืองหนาวอย่างใกล้ชิดที่สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
สวนสัตว์อาซาฮิยามะในเมืองอาซาฮิกาวะ มีชื่อเสียงเรื่องการจัดแสดงสัตว์ที่เลียนแบบสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ทำให้เราได้เห็นพฤติกรรมของสัตว์อย่างใกล้ชิด เช่น การเดินพาเหรดของเพนกวินในฤดูหนาว หรืออุโมงค์ใต้น้ำของหมีขั้วโลก สถานที่และแผนที่ Asahiyama Zoo, Asahikawa ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟ JR จาก Sapporo ไป Asahikawa (ประมาณ 1.5 ชม.) จากนั้นต่อรถบัส Asahiyama Zoo Line จากสถานี Asahikawa (ประมาณ 40 นาที) ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ตรวจสอบตารางการแสดงให้อาหารสัตว์หรือกิจกรรมพิเศษต่างๆ ล่วงหน้าช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่เหมาะมาชมเพนกวินเดินพาเหรดเตรียมตัวเดินค่อนข้างเยอะภายในสวนสัตว์ ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าเข้าชมสวนสัตว์ประมาณ 1,000 เยน
8. ชิมอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดปลาฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะเป็นแหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด ทั้งปู ปลาแซลมอน หอยเม่น และไข่ปลาแซลมอน คุณสามารถหาซื้อวัตถุดิบสดใหม่ หรือจะนั่งทานอาหารทะเลปรุงสุกหรือข้าวหน้าทะเล (Kaisendon) ได้ทันทีที่ร้านในตลาด สถานที่และแผนที่ Hakodate Morning Market, Hakodate ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง เดินจากสถานี JR Hakodate ประมาณ 1-2 นาที ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ลองชิมข้าวหน้าทะเล (Kaisendon) ที่ร้านอาหารในตลาดลองกิจกรรมตกหมึกสดๆ แล้วให้ร้านทำให้ทานได้ทันทีตลาดเปิดตั้งแต่เช้าตรู่และจะเริ่มซาลงในช่วงบ่าย ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าอาหารขึ้นอยู่กับประเภทและปริมาณ ราคาข้าวหน้าทะเลเริ่มต้นประมาณ 1,000 – 3,000 เยนขึ้นไป
9. ชมวิวพาโนรามาสุดอลังการจากยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
วิวกลางคืนจากยอดเขาฮาโกดาเตะได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (และบางครั้งก็ของโลก) สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองฮาโกดาเตะที่ขนาบข้างด้วยทะเลทั้งสองด้าน สถานที่และแผนที่ Mt. Hakodate, Hakodate ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าจากสถานี Hakodateyama Ropeway ที่ตีนเขา หรือนั่งรถบัสจากหน้าสถานี JR Hakodate (เฉพาะฤดูท่องเที่ยว) ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมวิวคือช่วงพลบค่ำถึงกลางคืนเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วยเพราะข้างบนอากาศเย็นและลมแรงมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกอยู่บนยอดเขา ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่ากระเช้าไฟฟ้าไป-กลับประมาณ 1,500 เยน
10. เที่ยวชมโรงงานช็อกโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
ขอบคุณภาพจาก https://www.istockphoto.com
สวนสนุกและโรงงานช็อกโกแลตชื่อดังของฮอกไกโด ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลต ชมกระบวนการผลิตคุกกี้ Shiroi Koibito อันโด่งดัง และเพลิดเพลินกับบรรยากาศสวนสวยงามสไตล์ยุโรป สถานที่และแผนที่ Shiroi Koibito Park, Sapporo ดูแผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ไปลงสถานี Miyanosawa (ประมาณ 15-20 นาทีจากสถานี Odori) แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที ข้อแนะนำ (กิน/เที่ยว/กิจกรรม)
ลองทำคุกกี้ของคุณเองในเวิร์คช็อป (ต้องจองล่วงหน้า)ชิมขนมหวานและเครื่องดื่มจากร้านคาเฟ่ภายในสวนอย่าลืมซื้อคุกกี้ Shiroi Koibito เป็นของฝาก ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าเข้าชมสวนฟรี (พื้นที่กลางแจ้งและร้านค้า) ค่าเข้าชมโซนโรงงานและนิทรรศการประมาณ 800 เยน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเดินทางไปญี่ปุ่น
ต้องใช้วีซ่าเพื่อเข้าประเทศญี่ปุ่นหรือไม่?
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นเพื่อท่องเที่ยวและพำนักได้ไม่เกิน 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า สกุลเงินที่ใช้ในญี่ปุ่นคืออะไร?
สกุลเงินที่ใช้ในญี่ปุ่นคือ เยน (JPY) ควรแลกเงินเยนไปก่อนเดินทาง ส่วนใหญ่ร้านค้าและบริการต่างๆ ก็รับบัตรเครดิต/เดบิตหลักๆ ด้วย การเดินทางในญี่ปุ่นสะดวกหรือไม่?
ระบบขนส่งสาธารณะในญี่ปุ่น โดยเฉพาะรถไฟ มีความสะดวก รวดเร็ว และตรงเวลามาก ทั้งในเมืองใหญ่และระหว่างเมือง มี Pass ต่างๆ เช่น JR Pass ให้เลือกใช้ สามารถใช้ Wi-Fi ฟรีในญี่ปุ่นได้ที่ไหนบ้าง?
มีบริการ Wi-Fi ฟรีตามสนามบิน สถานีรถไฟ โรงแรม ร้านสะดวกซื้อบางแห่ง และสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ นอกจากนี้ยังสามารถเช่า Pocket Wi-Fi หรือซื้อซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยวได้ ฤดูไหนเหมาะกับการไปเที่ยวญี่ปุ่น?
ญี่ปุ่นเที่ยวได้ทุกฤดู โดยแต่ละฤดูมีความสวยงามแตกต่างกัน ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) ชมซากุระ, ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) อากาศอบอุ่น มีเทศกาลต่างๆ, ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) ชมใบไม้เปลี่ยนสี, ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) ชมหิมะและเล่นสกีThaifly.com