พฤติกรรมคนไทยกับเดย์ครีม ทำไมตลาดนี้ยังโตไม่หยุด?

ในโลกที่แสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจของผิว และมลภาวะกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน การดูแลผิวหน้าในตอนเช้าด้วย “เดย์ครีม” จึงกลายเป็นกิจวัตรสำคัญของคนไทย โดยเฉพาะในช่วง 3–5 ปีที่ผ่านมา เราเห็นพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มผู้หญิงและผู้ชาย

บทความนี้จะเจาะลึกถึง พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยที่ใช้เดย์ครีม เหตุผลว่าทำไมสินค้านี้จึงยังเติบโตได้ในตลาดที่ดูเหมือนอิ่มตัว และให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์สำหรับนักธุรกิจหรือเจ้าของแบรนด์ที่อยากเข้าสู่ตลาดสกินแคร์


🧴เดย์ครีมคืออะไร และทำไมต้องใช้?

เดย์ครีม (Day Cream) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลผิวในช่วงเวลากลางวัน โดยมีคุณสมบัติดังนี้:

  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ป้องกันแสงแดด (มักมี SPF)
  • ป้องกันมลภาวะ ฝุ่น ควัน PM2.5
  • บางสูตรช่วยควบคุมความมันหรือปรับสีผิวให้กระจ่าง

จุดเด่นของเดย์ครีมคือสามารถใช้เป็น Base หรือ Primer ก่อนแต่งหน้า และให้การปกป้องผิวในระดับที่เหมาะสมกับกิจกรรมประจำวัน


🧴พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยที่เปลี่ยนไป

1. คนเมืองหันมาใส่ใจผิวมากขึ้น

จากรายงานของ Nielsen (2023) พบว่า คนไทยในเขตเมืองใหญ่กว่า 68% ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเป็นประจำ โดยเฉพาะในตอนเช้า ซึ่ง 1 ใน 3 ของผู้หญิงจะมี “เดย์ครีมที่มี SPF” ติดบ้านเสมอ

2. กลุ่มผู้ชายเริ่มใช้สกินแคร์มากขึ้น

  • ผู้ชายไทยกว่า 38% ในกลุ่มอายุ 20–40 ปี เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบ่อยขึ้น
  • ส่วนใหญ่เลือกเดย์ครีมแบบ All-in-One ที่ให้ความชุ่มชื้น + กันแดด + ควบคุมความมัน
  • การตลาดผ่านผู้ชายสายฟิตเนสหรือไลฟ์สไตล์ เป็นตัวขับเคลื่อนพฤติกรรมนี้

3. คนรุ่นใหม่มีความรู้เรื่องผิวพรรณมากขึ้น

  • กลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นใช้ TikTok / YouTube เรียนรู้เรื่องผิว จนรู้ว่าแค่ล้างหน้าอย่างเดียวไม่พอ
  • สื่อออนไลน์มีผลทำให้คนหันมาเลือกเดย์ครีมตามรีวิว Influencer หรือ Dermatologist มากขึ้น

4. การ Work From Home ไม่ได้ลดการใช้เดย์ครีม

แม้จะไม่ได้ออกจากบ้าน แต่คนไทยจำนวนมากยังคงใช้เดย์ครีมเพราะ:

  • หน้าจอมือถือ / คอมพิวเตอร์ปล่อยแสงสีฟ้า (Blue Light)
  • กลัวผิวแห้งจากแอร์ในบ้าน
  • ต้องการรักษาสุขภาพผิวให้ดูดีเวลาเข้าประชุมออนไลน์

🧴ปัจจัยที่ทำให้คนไทยยังใช้เดย์ครีมต่อเนื่อง

1. แสงแดดประเทศไทยแรงขึ้นทุกปี

  • ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ของประเทศที่มีดัชนีรังสียูวีสูงที่สุดในโลก
  • SPF เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อเดย์ครีมถึง 70% จากกลุ่มผู้หญิงไทย (ข้อมูลจาก Watsons Thailand)

2. มลภาวะในเมืองส่งผลต่อผิว

  • ฝุ่น PM2.5, ควันรถ, ความร้อน = ปัจจัยเร่งให้ผิวเสื่อมเร็ว
  • เดย์ครีมที่มีคำว่า “Anti-Pollution” หรือ “ปกป้องผิวจากมลภาวะ” จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

3. เทรนด์การแต่งหน้าน้อยลงแต่ผิวต้องดูดี

  • คนรุ่นใหม่เริ่มเน้นผิวสุขภาพดีมากกว่าการปกปิดด้วยรองพื้นหนา ๆ
  • เดย์ครีมที่มี Tint หรือช่วยเบลอรูขุมขนจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

4. เดย์ครีมมีราคาหลากหลายเข้าถึงง่าย

  • เริ่มต้นที่ 99–199 บาทต่อหลอด มีขายทั้งออนไลน์และร้านสะดวกซื้อ
  • ทำให้คนทุกระดับสามารถเริ่มต้นดูแลผิวได้

🧴โอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจจากเดย์ครีม

  1. เจาะกลุ่มผู้ชายวัยทำงาน – ด้วยสูตรไม่เหนียว ซึมเร็ว ไม่มีน้ำหอม
  2. เดย์ครีมกันแดด + สีผิวเข้ม – สำหรับผิวโทนเอเชียหรือผิวสองสีที่รองพื้นทั่วไปไม่ครอบคลุม
  3. สูตรมินิมอล / All-in-One – บำรุง + กันแดด + รองพื้นเบา ๆ สำหรับคนไม่ชอบทาหลายขั้นตอน
  4. สูตรธรรมชาติ / Vegan / ไม่มีซิลิโคน – เจาะกลุ่มคนรักสิ่งแวดล้อมและผิวแพ้ง่าย

🧴สรุป: เดย์ครีมยังไปได้อีกไกล หากเข้าใจผู้ใช้จริง

แม้ว่าตลาดเดย์ครีมจะดูมีการแข่งขันสูง แต่เมื่อมองลึกลงไปในพฤติกรรมผู้บริโภค จะเห็นว่าความต้องการในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ชาย กลุ่มคนเมือง และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการดูแลผิวแบบไม่ยุ่งยาก แบรนด์ที่สามารถวิเคราะห์ pain point เหล่านี้อย่างลึกซึ้ง พร้อมเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ ฟังก์ชัน ราคา และการสื่อสารการตลาดอย่างจริงใจ จะมีโอกาสสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีและเติบโตได้อย่างมั่นคง อีกทั้งแนวโน้มของผู้บริโภคยุคใหม่ยังเปิดรับแบรนด์ใหม่ๆ ที่มีจุดยืนชัดเจน โดยเฉพาะแบรนด์ที่เน้นความโปร่งใส ปลอดภัย และให้ข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับผิวพรรณ ซึ่งเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยในการสร้างแบรนด์เดย์ครีมของตัวเองอย่างมืออาชีพ

หากคุณกำลังวางแผนเริ่มต้นสร้างแบรนด์เดย์ครีมของตัวเองเพื่อเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นสูตรเดย์ครีมสำหรับผิวมัน ผิวแพ้ง่าย หรือสูตรพรีเมียมแบบมี SPF + Whitening + Anti-Pollution โรงงาน iBio พร้อมให้บริการครบวงจร ทั้งการพัฒนาสูตรกับทีม R&D มืออาชีพ, การทดสอบประสิทธิภาพ, การขึ้นทะเบียน อย., การออกแบบแพ็คเกจจิ้ง ไปจนถึงการผลิตสินค้าคุณภาพมาตรฐาน GMP และ ISO พร้อมให้คำปรึกษาฟรี เพื่อให้คุณเข้าสู่ตลาดได้อย่างมั่นใจ สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.ibiocorp.com