plant-protein-vs-whey-protein-comprehensive-guide

โปรตีนพืช vs เวย์โปรตีน เลือกอันไหนให้เหมาะกับตัวเอง

โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อต่างๆ การผลิตฮอร์โมนและเอนไซม์ หรือแม้กระทั่งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ในโลกปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายกันมากขึ้น “ผงโปรตีน” จึงกลายเป็นอาหารเสริมยอดนิยมที่ช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการออกกำลังกาย หรือในวันที่รับประทานอาหารที่มีโปรตีนไม่เพียงพอ แต่เมื่อต้องเลือกซื้อผงโปรตีน หลายคนอาจจะสับสนระหว่าง “เวย์โปรตีน” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการฟิตเนส และ “โปรตีนจากพืช” ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเทรนด์สุขภาพและสิ่งแวดล้อม แล้วโปรตีนทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร? และคุณควรเลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับเป้าหมายสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด?

บทความนี้จะเจาะลึกถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเวย์โปรตีนและโปรตีนจากพืช ตั้งแต่คุณค่าทางโภชนาการ การดูดซึม ประโยชน์ ไปจนถึงข้อควรพิจารณาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติ สารก่อภูมิแพ้ หรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนสำหรับการตัดสินใจเลือกโปรตีนที่ “ใช่” สำหรับคุณอย่างแท้จริง


whey-protein

เวย์โปรตีน: ราชาแห่งการสร้างกล้ามเนื้อและการฟื้นตัว

เวย์โปรตีน (Whey Protein) คือโปรตีนที่ได้จากหางนม ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตชีส จัดเป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่นักกีฬาและผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ

คุณสมบัติและประเภทของเวย์โปรตีน

เวย์โปรตีนเป็นโปรตีนสมบูรณ์ (Complete Protein) หมายความว่ามีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนทั้ง 9 ชนิดที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้และต้องได้รับจากอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดอะมิโนสายโซ่กิ่ง (Branched-Chain Amino Acids: BCAAs) อย่างลิวซีน (Leucine), ไอโซลิวซีน (Isoleucine), และวาลีน (Valine) ในปริมาณสูง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ (Muscle Protein Synthesis) และการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย

เวย์โปรตีนแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามระดับความบริสุทธิ์และกระบวนการผลิต:

  • เวย์โปรตีนคอนเซนเทรต (Whey Protein Concentrate – WPC): เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุดและผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด มีโปรตีนประมาณ 70-80% ของน้ำหนัก มีคาร์โบไฮเดรต (แลคโตส) และไขมันหลงเหลืออยู่เล็กน้อย รสชาติอร่อยและราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ไม่มีปัญหาการย่อยแลคโตส
  • เวย์โปรตีนไอโซเลต (Whey Protein Isolate – WPI): ผ่านกระบวนการกรองเพิ่มเติมเพื่อกำจัดแลคโตสและไขมันออกไปเกือบทั้งหมด ทำให้มีโปรตีนสูงถึง 90% ขึ้นไป มีปริมาณแลคโตสต่ำมากจนเกือบเป็นศูนย์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะแพ้แลคโตสเล็กน้อยหรือต้องการโปรตีนที่บริสุทธิ์ที่สุดโดยมีไขมันและคาร์โบไฮเดรตน้อยที่สุด
  • เวย์โปรตีนไฮโดรไลเซต (Whey Protein Hydrolysate – WPH): เป็นรูปแบบที่ผ่านการย่อยสลายด้วยเอนไซม์ (Hydrolyzed) ทำให้โมเลกุลโปรตีนมีขนาดเล็กลง ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็วที่สุด มักใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทารก สูตรสำหรับนักกีฬาที่ต้องการการฟื้นตัวอย่างเร่งด่วน หรือผู้ที่มีปัญหาการย่อยโปรตีน มีรสชาติขมเล็กน้อยและราคาสูงที่สุด

ประโยชน์ของเวย์โปรตีน

เวย์โปรตีนมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกาย:

  • ส่งเสริมการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ: ด้วย BCAA โดยเฉพาะลิวซีนสูง ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบริโภคหลังการออกกำลังกาย
  • เร่งการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ: ช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อและอาการปวดเมื่อยหลังการฝึกหนัก ทำให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฝึกครั้งต่อไปได้เร็วขึ้น
  • ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก: โปรตีนช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และรักษามวลกล้ามเนื้อในขณะที่ลดน้ำหนัก
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: มีสารประกอบชีวภาพ เช่น แลคโตเฟอร์ริน (Lactoferrin) และอิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin) ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ดูดซึมได้รวดเร็ว: โดยเฉพาะ WPI และ WPH เหมาะสำหรับการให้โปรตีนแก่กล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่สำคัญ เช่น หลังการฝึก

ข้อควรพิจารณาสำหรับเวย์โปรตีน

แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่เวย์โปรตีนก็มีข้อจำกัดบางประการ:

  • การแพ้แลคโตสและนม: ผู้ที่มีภาวะแพ้แลคโตสอย่างรุนแรง หรือแพ้โปรตีนนมวัว อาจมีอาการท้องอืด ท้องเสีย หรืออาการแพ้อื่นๆ ควรเลือกเวย์โปรตีนไอโซเลต หรือพิจารณาโปรตีนจากพืชแทน
  • แหล่งที่มา: เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ วีแกน หรือผู้ที่คำนึงถึงประเด็นด้านจริยธรรมและสิ่งแวดล้อมจากการปศุสัตว์
  • รสชาติและเนื้อสัมผัส: โดยทั่วไปเวย์โปรตีนจะละลายน้ำได้ดีและมีรสชาติเป็นกลางหรือปรุงแต่งได้หลากหลาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและส่วนผสม

plant-based-protein

โปรตีนจากพืช: ทางเลือกที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ

โปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein) คือโปรตีนที่สกัดได้จากแหล่งพืชต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ข้าวกล้อง เมล็ดฟักทอง หรือกัญชง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ในกลุ่มชาววีแกนหรือมังสวิรัติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่มองหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แหล่งที่มาและคุณสมบัติของโปรตีนจากพืช

ต่างจากเวย์โปรตีนที่มักเป็นโปรตีนสมบูรณ์ โปรตีนจากพืชหลายชนิดมักเป็นโปรตีนไม่สมบูรณ์ (Incomplete Protein) หมายความว่าอาจขาดกรดอะมิโนจำเป็นบางชนิด อย่างไรก็ตาม การรวมโปรตีนจากพืชหลายชนิดเข้าด้วยกัน เช่น การผสมโปรตีนถั่วลันเตากับโปรตีนข้าวกล้อง จะช่วยให้ได้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนและสมบูรณ์เทียบเท่าโปรตีนจากสัตว์ได้

แหล่งโปรตีนจากพืชยอดนิยมได้แก่:

  • โปรตีนถั่วลันเตา (Pea Protein): ได้จากถั่วลันเตาสีเหลือง เป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่มี BCAA สูงพอสมควร ใกล้เคียงกับเวย์โปรตีน ย่อยง่ายและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้แพ้ถั่วเหลืองหรือนม
  • โปรตีนข้าวกล้อง (Brown Rice Protein): มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนแต่มีไลซีน (Lysine) ต่ำ มักนิยมนำมาผสมกับโปรตีนถั่วลันเตาเพื่อเสริมกรดอะมิโนให้สมบูรณ์ขึ้น ย่อยง่ายและไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
  • โปรตีนถั่วเหลือง (Soy Protein): เป็นหนึ่งในไม่กี่ชนิดของโปรตีนจากพืชที่เป็นโปรตีนสมบูรณ์ มีโปรตีนสูงและราคาไม่แพง แต่บางคนอาจมีข้อกังวลเรื่องไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) หรือมีอาการแพ้ถั่วเหลือง
  • โปรตีนกัญชง (Hemp Protein): นอกจากโปรตีนแล้วยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 รวมถึงใยอาหารสูง โปรตีนไม่สมบูรณ์และเนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบ
  • โปรตีนจากเมล็ดฟักทอง/เมล็ดทานตะวัน: มีโปรตีนและไขมันดีสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังงานและสารอาหาร

ประโยชน์ของโปรตีนจากพืช

โปรตีนจากพืชมอบประโยชน์ที่แตกต่างและหลากหลาย:

  • เหมาะสำหรับชาววีแกนและผู้แพ้นม/แลคโตส: เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่จำกัดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์หรือมีปัญหาการย่อยแลคโตส
  • อุดมด้วยใยอาหารและสารอาหารรอง: โปรตีนจากพืชหลายชนิดมาพร้อมกับใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งช่วยส่งเสริมระบบขับถ่ายและสุขภาพโดยรวม
  • ดีต่อสุขภาพหัวใจ: การบริโภคโปรตีนจากพืชมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: การผลิตโปรตีนจากพืชโดยทั่วไปใช้ทรัพยากรน้อยกว่า (น้ำ, ที่ดิน) และปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการผลิตโปรตีนจากสัตว์อย่างมีนัยสำคัญ
  • ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ง่าย: แม้จะมีบางคนที่แพ้ถั่วเหลือง แต่โดยรวมแล้ว โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วลันเตา หรือข้าวกล้อง มักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ที่มีภูมิแพ้อาหารทั่วไป

ข้อควรพิจารณาสำหรับโปรตีนจากพืช

เช่นเดียวกับเวย์โปรตีน โปรตีนจากพืชก็มีข้อควรพิจารณาบางประการ:

  • ความสมบูรณ์ของกรดอะมิโน: หากเลือกโปรตีนจากพืชเพียงชนิดเดียว อาจไม่ได้รับกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็น “Blend” หรือผสมหลายชนิดเข้าด้วยกัน
  • การดูดซึม: บางชนิดอาจมีอัตราการดูดซึมช้ากว่าเวย์โปรตีนเล็กน้อย และมีสารต้านสารอาหาร (Anti-nutrients) บางชนิดที่อาจส่งผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุ แต่โดยรวมแล้วไม่ได้มีผลกระทบมากนักหากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
  • รสชาติและเนื้อสัมผัส: โปรตีนจากพืชบางชนิดอาจมีรสชาติเฉพาะตัว หรือเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเป็นแป้งหรือ “Chalky” มากกว่าเวย์โปรตีน อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบันทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสดีขึ้นมาก
  • ปริมาณโปรตีนต่อหน่วยบริโภค: บางผลิตภัณฑ์อาจมีปริมาณโปรตีนต่อสกู๊ปน้อยกว่าเวย์โปรตีนเล็กน้อย ควรตรวจสอบฉลากโภชนาการให้ดี

การเปรียบเทียบเชิงลึก: โปรตีนพืช vs เวย์โปรตีน

เพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพความแตกต่างได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ลองพิจารณาตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติหลักๆ ของโปรตีนทั้งสองชนิดนี้:

คุณสมบัติเวย์โปรตีน (Whey Protein)โปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein)
แหล่งที่มานมวัว (หางนม)ถั่วต่างๆ (ถั่วลันเตา, ถั่วเหลือง), ข้าว, เมล็ดพืช, พืชตระกูลถั่ว
ความสมบูรณ์ของกรดอะมิโนเป็นโปรตีนสมบูรณ์ มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน (โดยเฉพาะ BCAA สูง)บางชนิดไม่สมบูรณ์ (เช่น ข้าวกล้อง) แต่หลายผลิตภัณฑ์เป็น “Blend” เพื่อให้ได้กรดอะมิโนครบถ้วน
อัตราการดูดซึมรวดเร็ว (โดยเฉพาะ WPI, WPH) เหมาะสำหรับหลังออกกำลังกายปานกลางถึงช้ากว่า (ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา) อาจมีใยอาหารช่วยชะลอ
สารก่อภูมิแพ้แลคโตสและโปรตีนนมวัว (ผู้แพ้แลคโตส/แพ้นม)ถั่วเหลือง, ถั่วลิสง, กลูเตน (ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา) แต่โดยรวมมีโอกาสก่อภูมิแพ้น้อยกว่าเวย์สำหรับบางคน
ประโยชน์เสริมกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ, ฟื้นตัวเร็ว, เสริมภูมิคุ้มกันใยอาหารสูง, วิตามินแร่ธาตุ, ดีต่อสุขภาพหัวใจ, เป็นมิตรต่อลำไส้
รสชาติและเนื้อสัมผัสมักจะละลายง่าย รสชาติหลากหลายและเป็นกลางอาจมีรสชาติเฉพาะตัว หรือเนื้อสัมผัสที่หยาบกว่า (แต่พัฒนาดีขึ้นมาก)
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมค่อนข้างสูง (การปศุสัตว์)ค่อนข้างต่ำ (การเพาะปลูกพืช)
ราคาหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทและแบรนด์ (WPC มักถูกกว่า WPI/WPH)หลากหลาย ขึ้นอยู่กับแหล่งโปรตีนและสูตรผสม (บางชนิดอาจมีราคาสูง)
กลุ่มผู้บริโภคหลักนักกีฬา, ผู้สร้างกล้ามเนื้อ, ผู้ที่ต้องการเพิ่มโปรตีนอย่างรวดเร็วชาววีแกน/มังสวิรัติ, ผู้แพ้แลคโตส, ผู้ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม, ผู้ที่ต้องการโปรตีนจากธรรมชาติ

ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่ควรพิจารณา

นอกจากการเปรียบเทียบในตารางแล้ว ยังมีปัจจัยย่อยอื่นๆ ที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจ:

  • การย่อยอาหารและความสบายท้อง: ผู้ที่ไวต่อแลคโตสอาจพบว่าเวย์โปรตีนคอนเซนเทรตทำให้ท้องอืดหรือปวดท้องได้ ในขณะที่เวย์โปรตีนไอโซเลตหรือโปรตีนจากพืชส่วนใหญ่ (ยกเว้นถั่วเหลืองสำหรับบางคน) มักจะย่อยง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีปัญหาการย่อยโปรตีนจากพืชบางชนิด เช่น ถั่วลันเตา
  • โปรไฟล์กรดอะมิโน: แม้ว่าเวย์โปรตีนจะขึ้นชื่อเรื่อง BCAA ที่สูง แต่โปรตีนจากพืชแบบผสมผสาน (เช่น ถั่วลันเตา+ข้าวกล้อง) ก็สามารถให้โปรไฟล์กรดอะมิโนที่สมบูรณ์และเพียงพอต่อการสร้างกล้ามเนื้อได้เช่นกัน นักกีฬาที่ฝึกหนักมากอาจยังคงได้ประโยชน์จากความเร็วในการดูดซึมของเวย์โปรตีน
  • คุณสมบัติเสริมอื่นๆ: โปรตีนจากพืชมักมาพร้อมกับไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุจากพืช ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้และสุขภาพโดยรวม ในขณะที่เวย์โปรตีนมีสารชีวภาพที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

เลือกโปรตีนที่เหมาะกับคุณ: พิจารณาจากเป้าหมายและไลฟ์สไตล์

ไม่มีคำตอบตายตัวว่าโปรตีนชนิดไหน “ดีที่สุด” เพราะ “ดีที่สุด” คือโปรตีนที่เหมาะสมกับคุณที่สุดต่างหาก การตัดสินใจของคุณควรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ ดังต่อไปนี้:

1. เป้าหมายด้านสุขภาพและสมรรถภาพทางกาย

  • สำหรับการสร้างกล้ามเนื้อและการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว: หากคุณเป็นนักกีฬาที่ฝึกซ้อมอย่างหนัก หรือมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและต้องการการฟื้นตัวที่รวดเร็วทันใจหลังออกกำลังกาย เวย์โปรตีน โดยเฉพาะ WPI หรือ WPH อาจเป็นตัวเลือกที่เหนือกว่า เนื่องจากมี BCAA สูงและดูดซึมเร็ว ช่วยให้กล้ามเนื้อได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นทันทีหลังการฝึก
  • สำหรับการควบคุมน้ำหนักและรักษามวลกล้ามเนื้อ: ทั้งเวย์โปรตีนและโปรตีนจากพืชสามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และรักษามวลกล้ามเนื้อในขณะที่กำลังลดน้ำหนักได้ หากคุณไม่มีปัญหาเรื่องแลคโตส เวย์โปรตีนก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่หากต้องการโปรตีนที่มีใยอาหารสูง โปรตีนจากพืชก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
  • สำหรับการรักษาสุขภาพโดยรวมและเติมเต็มโปรตีนในแต่ละวัน: หากคุณเพียงต้องการเพิ่มปริมาณโปรตีนในอาหารประจำวันเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน หรือมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความยั่งยืน ทั้งสองชนิดต่างก็เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยม คุณสามารถเลือกตามความชอบส่วนตัวและข้อจำกัดด้านอาหาร

2. ข้อจำกัดด้านอาหารและไลฟ์สไตล์

  • ชาววีแกน มังสวิรัติ หรือผู้จำกัดผลิตภัณฑ์จากสัตว์: โปรตีนจากพืชคือตัวเลือกเดียวที่เป็นไปได้และเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็น “Plant-Based Protein Blend” เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
  • ผู้แพ้แลคโตสหรือแพ้นมวัว: หากคุณมีอาการท้องอืด ท้องเสีย หรืออาการแพ้อื่นๆ หลังการบริโภคนมวัว เวย์โปรตีนไอโซเลตอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเวย์คอนเซนเทรต แต่หากแพ้รุนแรง หรือต้องการหลีกเลี่ยงนมวัวอย่างสิ้นเชิง โปรตีนจากพืชก็คือคำตอบที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  • ผู้ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: หากคุณต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการบริโภคอาหาร การเลือกโปรตีนจากพืชถือเป็นการสนับสนุนแนวทางการผลิตที่ยั่งยืนมากกว่าการผลิตโปรตีนจากสัตว์

3. ความชอบส่วนตัวและปัจจัยอื่นๆ

  • รสชาติและเนื้อสัมผัส: เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล บางคนอาจชอบความลื่นไหลของเวย์โปรตีน ในขณะที่บางคนอาจจะชอบรสชาติที่เป็นธรรมชาติหรือเนื้อสัมผัสที่แตกต่างของโปรตีนจากพืช การลองหลายๆ ยี่ห้อจะช่วยให้คุณค้นพบสิ่งที่ถูกใจ
  • งบประมาณ: โดยทั่วไปเวย์โปรตีนคอนเซนเทรตมักมีราคาถูกที่สุด ตามด้วยโปรตีนจากพืชบางชนิด และเวย์โปรตีนไอโซเลต/ไฮโดรไลเซตจะมีราคาสูงที่สุด อย่างไรก็ตาม ราคาแตกต่างกันไปตามแบรนด์และคุณภาพ
  • ความสะดวกในการย่อย: สังเกตปฏิกิริยาของร่างกายต่อโปรตีนแต่ละชนิด หากเวย์ทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง ลองเปลี่ยนเป็นโปรตีนจากพืช หรือถ้าโปรตีนจากพืชบางชนิดทำให้เกิดแก๊ส ก็ลองเปลี่ยนแหล่งโปรตีนจากพืชชนิดอื่น

plant-protein-vs-whey-protein

สรุป: เลือกให้ “ใช่” ไม่ใช่ “ดีที่สุด”

ทั้งเวย์โปรตีนและโปรตีนจากพืชต่างก็มีจุดเด่นและข้อควรพิจารณาที่แตกต่างกันไป เวย์โปรตีนยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อและการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยโปรไฟล์กรดอะมิโนที่สมบูรณ์และอัตราการดูดซึมที่โดดเด่น ในขณะที่โปรตีนจากพืชกำลังก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมและยั่งยืนสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ มีปัญหาการแพ้แลคโตส หรือให้ความสำคัญกับสุขภาพลำไส้และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจความต้องการของร่างกาย เป้าหมายส่วนบุคคล และข้อจำกัดด้านอาหารของคุณ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหรือนักกำหนดอาหารก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเสริมโปรตีนในแต่ละวัน


คำถามที่พบบ่อย

Q: โปรตีนพืชคืออะไร แตกต่างจากเวย์โปรตีนอย่างไร?

A: โปรตีนพืชได้จากพืช เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ข้าวกล้อง ส่วนเวย์โปรตีนได้จากนมวัว จึงมีกรดอะมิโนที่ต่างกันและคุณสมบัติการย่อยต่างกัน

Q: โปรตีนจากพืชมีผลข้างเคียงเรื่องท้องอืดหรือแก๊สเยอะกว่าเวย์โปรตีนหรือไม่?

A: บางคนอาจมีอาการท้องอืดหรือแก๊สเมื่อบริโภคโปรตีนจากพืชบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่มถั่ว เนื่องจากมีใยอาหารหรือสารประกอบบางอย่างที่กระตุ้นการย่อย อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เวย์โปรตีนคอนเซนเทรตก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องอืดในผู้ที่แพ้แลคโตสได้เช่นกัน การลองเปลี่ยนชนิดของโปรตีนหรือปริมาณที่บริโภคอาจช่วยได้

Q: ผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อควรเลือกโปรตีนจากพืชแทนเวย์โปรตีนได้ไหม?

A: ได้อย่างแน่นอน โปรตีนจากพืชแบบผสมผสาน (เช่น ถั่วลันเตาและข้าวกล้อง) สามารถให้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนและเพียงพอต่อการสร้างกล้ามเนื้อได้เช่นกัน แม้ว่าอัตราการดูดซึมอาจช้ากว่าเวย์โปรตีนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอและบริโภคโปรตีนอย่างเพียงพอในแต่ละวัน

Q: โปรตีนพืชกับเวย์โปรตีน อันไหนเหมาะกับการลดน้ำหนัก?

A: ทั้งสองชนิดช่วยเพิ่มความอิ่มและลดการกินจุกจิก เวย์โปรตีนให้การเผาผลาญดี ส่วนโปรตีนพืชเหมาะกับคนที่อยากได้ไฟเบอร์เสริมและย่อยสบาย

Q: สรุปแล้วควรเลือกโปรตีนพืชหรือเวย์โปรตีนดี?

A: ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและร่างกายของคุณ หากต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อเร็วและไม่มีอาการแพ้นม ให้เลือกเวย์โปรตีน แต่หากแพ้แลคโตส กินมังสวิรัติ หรืออยากย่อยง่าย เลือกโปรตีนพืชจะดีกว่า


หากสนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจสร้างแบรนด์โปรตีนจากพืชหรืออาหารเสริมอื่นๆ ของตัวเอง สามารถติดต่อสอบถามกับ iBio ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับผลิตอาหารเสริม oem ครบวงจร ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เราพร้อมดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษาจนจบกระบวนการ โทรเลย 02-713-8989 หรือดูรายละเอียดบริการรับผลิตโปรตีนพืชและเวย์โปรตีนของ iBio ได้ที่ รับผลิตโปรตีนพืช oem พร้อมสร้างแบรนด์ครบวงจร และ  รับผลิตเวย์โปรตีน oem พร้อมสร้างแบรนด์ครบวงจร